ผลกระทบของ PM 2.5 ต่อผิวหนัง และ ประโยชน์ของสารสกัดจากพืชในการปกป้องและฟื้นฟูผิว
ผลกระทบของ PM 2.5 ต่อผิวหนัง
PM 2.5 (Particulate Matter ขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน) เป็นมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวหนังโดยตรง เนื่องจากอนุภาคขนาดเล็กสามารถแทรกซึมผ่านรูขุมขนเข้าสู่ผิวหนังได้ ก่อให้เกิดปัญหาดังนี้
- กระตุ้นการอักเสบและระคายเคือง – อนุภาค PM 2.5 ทำให้เกิดการอักเสบของผิว กระตุ้นการหลั่งไซโตไคน์อักเสบ (inflammatory cytokines) ทำให้เกิดผื่นแพ้และอาการแดงของผิว
- เพิ่มการเกิดริ้วรอยก่อนวัย – PM 2.5 กระตุ้นอนุมูลอิสระ (oxidative stress) ซึ่งทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และความหมองคล้ำ
- กระตุ้นการผลิตเม็ดสีผิดปกติ – อนุภาคขนาดเล็กสามารถกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินผิดปกติ ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ
- ลดความสามารถของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) – PM 2.5 ทำให้ชั้นไขมันที่ช่วยปกป้องผิวอ่อนแอลง ส่งผลให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และไวต่อสารก่อการระคายเคือง
- กระตุ้นสิวและรูขุมขนอุดตัน – สารพิษใน PM 2.5 เช่น โลหะหนักและไฮโดรคาร์บอน สามารถกระตุ้นต่อมไขมัน ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนและเกิดสิว
ประโยชน์ของสารสกัดจากพืชในการปกป้องและฟื้นฟูผิวจาก PM 2.5
1. Plantago major leaf extract (สารสกัดผักาดน้ำ หรือ หญ้าเอ็นยืด)
- มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว
- ช่วยลดการระคายเคืองและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวที่เสียหายจาก PM 2.5
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ผิวจากมลภาวะ
2. Centella asiatica leaf extract (สารสกัดจากใบบัวบก)
- อุดมไปด้วยสาร Madecassoside และ Asiaticoside ที่ช่วยลดการอักเสบของผิวจาก PM 2.5
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ลดริ้วรอยก่อนวัย
- ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งและแพ้ง่ายจากมลภาวะ
3. Chamomilla recutita flower extract (สารสกัดจากดอกคาโมมายล์)
- มีสาร Apigenin และ Bisabolol ซึ่งช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคืองและอาการแพ้จาก PM 2.5
- ลดอาการแดงของผิวจากการอักเสบ
- มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากความเสียหายของมลภาวะ
4. Hamamelis virginiana extract (สารสกัดจากวิชฮาเซล)
- มี Tannins และ Flavonoids ช่วยสมานผิวและลดการอักเสบจาก PM 2.5
- ควบคุมความมัน ลดการอุดตันของรูขุมขนที่เกิดจากมลภาวะ
- กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
5. Aloe barbadensis leaf extract (สารสกัดจากว่านหางจระเข้)
- มีสาร Polysaccharides และ Aloin ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว
- ช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายจาก PM 2.5
- มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสียหายจากแสงแดดและมลภาวะ
6. Trigonella foenum-graecum seed extract (สารสกัดจากเมล็ดลูกซัด หรือ Fenugreek Seed)
- อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Flavonoids และ Saponins ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ
- มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดการระคายเคืองของผิวที่สัมผัส PM 2.5
- ช่วยบำรุงและฟื้นฟูความชุ่มชื้นของผิวที่ถูกทำลาย
7.สารสกัดจากไพล (Zingiber montanum)
- มีสาร Curcuminoids และ Essential Oils ที่ช่วยต้านการอักเสบ ลดอาการแพ้และระคายเคืองผิวจาก PM 2.5
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวา
- มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการเกิดสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน
8.สารสกัดจากมะขามป้อม (Phyllanthus emblica)
- เป็นแหล่งวิตามินซีตามธรรมชาติที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระจาก PM 2.5
- ช่วยลดจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดความหมองคล้ำจากมลภาวะ
- ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยจากการทำลายของอนุมูลอิสระ
สรุป
PM 2.5 ส่งผลเสียต่อผิวหนังหลายด้าน ทั้งการอักเสบ ริ้วรอยก่อนวัย การเกิดจุดด่างดำ และการทำลายเกราะป้องกันผิว อย่างไรก็ตาม สารสกัดจากพืชธรรมชาติ เช่น Plantago major, Centella asiatica, Chamomilla recutica, Hamamelis virginiana, Aloe barbadensis, Trigonella foenum-graecum,, Zingiber montanum extract และ Phyllanthus emblica fruit extract สามารถช่วยปกป้องผิว ลดการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยฟื้นฟูผิวจากความเสียหายที่เกิดจากมลภาวะ
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากพืชเหล่านี้ร่วมกับการป้องกันมลภาวะ เช่น การล้างหน้าหลังออกจากที่แจ้ง จะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น และลดผลกระทบจาก PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ