Basic Knowledge to Care Hair and Scalp

 

เส้นผมและหนังศีรษะเป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกายที่ไม่เพียงแต่มีบทบาทด้านความสวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงสุขภาพโดยรวมของเราได้ด้วย การทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะจะช่วยให้เราดูแลเส้นผมได้อย่างเหมาะสม ลดปัญหาผมร่วง หนังศีรษะมัน หรือรังแคที่อาจเกิดขึ้นได้

โครงสร้างของเส้นผม

เส้นผม(Hair shaft)

ประกอบไปด้วย เคราติน (Keratin) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดเดียวกับที่พบในเล็บและผิวหนัง เส้นผมแต่ละเส้นมีโครงสร้างหลัก 3 ชั้น ได้แก่

  1. คิวติเคิล (Cuticle) – ชั้นนอกสุดของเส้นผม มีลักษณะเป็นเกล็ดซ้อนกัน ทำหน้าที่ปกป้องเนื้อในของเส้นผมจากความเสียหายจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น แสงแดด ความร้อน และสารเคมี โดยชั้นผิวนอกจะประกอบด้วยเกล็ดเล็ก ๆ ซ้อนทับกันเป็นแถวตามแนวยาวของเส้นผม หากเกล็ดเหล่านี้เปิดออกจะทำให้เส้นผมดูแห้งกร้าน ไม่เรียบลื่น
  2. คอร์เทกซ์ (Cortex) – ชั้นกลาง ประกอบด้วยเส้นใยโปรตีนเรียงตัวกันแบบอัดแน่น ทำหน้าที่ให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นแก่เส้นผม และมีเม็ดสีเมลานินที่กำหนดสีของเส้นผม
  3. เมดุลลา (Medulla) – ชั้นในสุด  เป็นชั้นในสุดของเส้นผม มีลักษณะคล้ายท่อขนาดเล็กเรียงตัวกัน 3-4 ชั้น ซึ่งเกิดจากโปรตีนและไขมัน ส่วนมากจะพบในผมเส้นใหญ่ หรือผู้ที่มีสภาพผมแข็งแรง

รากผม(Hair root)

รากผม คือส่วนที่อยู่ใต้ผิวหนังศีรษะ ทำหน้าที่สร้างและผลิตเส้นผมใหม่ขึ้นมาแทนที่เส้นเก่าที่หลุดร่วงไป โดยโครงสร้างของรากผมจะประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้

  1. ต่อมรากผม (Hair Follicle) เป็นช่องเล็ก ๆ ที่ลึกลงไปในชั้นหนังแท้ของศีรษะ ภายในต่อมจะประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเส้นผม
  2. กระเปาะผม (Hair Bulb) เป็นส่วนปลายของรากผมที่มีลักษณะเป็นก้อนกลมนูน ประกอบด้วยเมทริกซ์เซลล์ (Matrix Cells) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่จะแบ่งตัวและเจริญเติบโตกลายเป็นเส้นผม

รากผมและวงจรชีวิตของเส้นผม

เส้นผมเจริญเติบโตจากรากผม (Hair Follicle) ที่ฝังอยู่ในหนังศีรษะ มีเส้นเลือดและต่อมไขมันคอยหล่อเลี้ยง วงจรชีวิตของเส้นผมแบ่งเป็น 3 ระยะหลัก ได้แก่

  1. ระยะเจริญเติบโต (Anagen Phase) – ช่วงที่เส้นผมงอกยาวอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลานาน 2-7 ปี
  2. ระยะหยุดเจริญเติบโต (Catagen Phase) – ระยะเปลี่ยนผ่านที่เส้นผมหยุดการเจริญเติบโต กินเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
  3. ระยะหลุดร่วง (Telogen Phase) – ช่วงที่เส้นผมเก่าหลุดออก และมีเส้นผมใหม่ขึ้นมาแทนที่ ใช้เวลาประมาณ 2-4 เดือน

หนังศีรษะและการทำงานของต่อมไขมัน

หนังศีรษะมีต่อมไขมัน (Sebaceous Gland) ทำหน้าที่ผลิตน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม หากต่อมไขมันทำงานผิดปกติอาจส่งผลให้หนังศีรษะมีปัญหา เช่น

  • หนังศีรษะมันเกินไป – อาจทำให้เกิดรังแค ผมลีบแบน และมีความเสี่ยงต่อการเกิดสิวที่หนังศีรษะ
  • หนังศีรษะแห้งเกินไป – ทำให้เกิดอาการคัน ลอกเป็นขุย หรือมีรังแคแห้ง
  • หนังศีรษะอักเสบ – อาจเกิดจากเชื้อรา ภูมิแพ้ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม

ปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ

สุขภาพของเส้นผมและหนังศีรษะได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย ได้แก่

  • โภชนาการ – การขาดสารอาหาร เช่น ธาตุเหล็ก โปรตีน ไบโอติน และโอเมก้า-3 อาจทำให้ผมร่วงหรือผมแห้งเสีย
  • ฮอร์โมน – ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) มีผลต่อการหลุดร่วงของเส้นผม โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะศีรษะล้านแบบพันธุกรรม, ฮอร์โมนเอสโตรเจน( Estrogen)ลดลง เช่น ภาวะวัยทอง
  • ความเครียด และการเจ็บป่วย– ส่งผลให้เส้นผมเข้าสู่ระยะหลุดร่วงเร็วกว่าปกติ
  • การใช้สารเคมีและความร้อน – การทำสี ดัด ยืด หรือใช้ความร้อนสูงบ่อย ๆ อาจทำให้เส้นผมแห้งเสียและเปราะขาด
  • การทำความสะอาด – การสระผมบ่อยเกินไปหรือใช้แชมพูที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้หนังศีรษะเสียสมดุล

การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะอย่างถูกต้อง

เพื่อสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะที่ดี ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้

  1. เลือกแชมพูและครีมนวดที่เหมาะสม – สำหรับผู้ที่มีปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะ ควรเลือกแชมพูที่ปราศจากสารที่ก่อการระคายเคือง เช่น ปราศจากสารซัลเฟต(Sulfate-free), ปราศจากน้ำหอมสังเคราะห์(Synthetic perfume-free) ปราศจากสารกันเสียชนิดเคมี
  2. สระผมอย่างเหมาะสม – ตามสภาพของหนังศีรษะและกิจวัตรประจำวัน เช่น เหงื่อออกหรือถูกฝุ่นมากควรสระผมทุกวัน
  3. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีบ่อยเกินไป – หากจำเป็นต้องทำสีผมหรือใช้สารเคมี ควรใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยลดการระคายเคือง
  4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ – ควรบริโภคอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงเส้นผม
  5. ดูแลสุขภาพโดยรวม – ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และจัดการความเครียด

สรุป

เส้นผมและหนังศีรษะเป็นส่วนสำคัญที่ควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การเข้าใจโครงสร้างและวงจรชีวิตของเส้นผม รวมถึงปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพหนังศีรษะ จะช่วยให้สามารถเลือกวิธีดูแลได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เส้นผมแข็งแรง เงางาม และปราศจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

หากคุณมีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหนังศีรษะผิดปกติ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

สาเหตุของผมร่วงผมบางในผู้หญิง: ความจริงที่ควรรู้และวิธีรับมือ

บทความโดย นพ.ปิยะวํฒน์ ภูมิสุวรรณ
English

ผมร่วงและผมบางเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้หญิงทุกวัยซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นใจและสุขภาพจิตใจของหลายคน สาเหตุของผมร่วงในผู้หญิงมีความซับซ้อนและหลากหลาย

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหา พร้อมแนะนำวิธีดูแลและป้องกันอย่างถูกต้อง

สาเหตุหลักของผมร่วงผมบางในผู้หญิง

  1. ฮอร์โมนและพันธุกรรม
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ หลังคลอด หรือวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติ
  • พันธุกรรมสามารถมีผลต่อการเกิดภาวะผมบางแบบผู้หญิง (Female Pattern Hair Loss) ซึ่งมักเริ่มที่กลางศีรษะและกระจายออกด้านข้าง
  1. ความเครียดและปัญหาทางจิตใจ
  • ความเครียดทางร่างกายหรือจิตใจสามารถทำให้ผมหลุดร่วงได้ เช่น ภาวะ Telogen Effluvium ที่เกิดจากความเครียดทำให้ผมเข้าสู่ระยะพักพร้อมกัน
  • ปัญหาทางจิตใจ เช่น ภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้า ก็ส่งผลต่อสุขภาพผมได้
  1. โรคและปัญหาสุขภาพ
  • โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคภูมิคุ้มกัน หรือโรคโลหิตจาง เป็นเหตุที่ทำให้ผมร่วงผมบางได้
  • การนอนไม่หลับ พักผ่อนน้อย ก็ส่งผลกระทบต่อผมร่วงผมบางเช่นกัน
  1. โภชนาการที่ไม่สมดุล
  • การขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี ไบโอติน และโปรตีน
  • การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วหรือการทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ
  1. การใช้สารเคมีและความเสียหายจากการจัดแต่งผม
  • การใช้สารเคมี เช่น การย้อมผม ดัดผม หรือยืดผม กระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองที่ศีรษะและรากผมซึ่งมีผลต่อการขึ้นและการเติบโตของเส้นผม หากมีความจำเป็นต้องดัดผม ย้อมผม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีระและรากผมหลังการทำสีหรือดัดผม เช่น Natural Hair Spray
  • การระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นประจำ เช่น แชมพู ครีมนวดผม การระคายเคืองนี้สามารถตรวพบได้ด้วยกล้องขยายไมโครสโครป หากคุณมีหนังศีรษะที่ไวต่อการระคายเคือง แนะนำให้ใช้แชมพูที่ปราศจากสารซัลเฟต ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีกันบูด
  1.  อายุที่เพิ่มขึ้น
  • เมื่ออายุมากขึ้น วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมจะสั้นลง ทำให้ผมบางและหลุดร่วงง่ายขึ้น การได้รับทรีตเมนต์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุเส้นผมและจำนวนเส้นผมได้

วิธีดูแลและป้องกันปัญหาผมร่วงผมบาง

  1. ดูแลสุขภาพจากภายใน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ เนื้อปลา และธัญพืช
  • เสริมวิตามินที่จำเป็น เช่น ไบโอติน วิตามินดี ธาตุเหล็ก และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผม
  1. จัดการความเครียด
  • ใช้เวลาในการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  1. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะสม
  • เลือกแชมพูและครีมนวดที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผม ปราศจากสารซัลเฟต ปราศจากสารซิลิโคน ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีกันบูด
  1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • หากมีปัญหาผมร่วงเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหนังศีรษะเพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
  • การรักษาด้วยเลเซอร์
    เมโสเธอราปี โลชั่น และยากิน ตามความเหมาะสมจะช่วยให้ผมหยุกร่วงและขึ้นกลับมาได้

สรุป

  • ผมร่วงผมบางในผู้หญิงอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งฮอร์โมน ความเครียด สุขภาพ และการดูแลที่ไม่เหมาะสม
  • การเข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีการดูแลที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมของคุณ
  • การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างตรงจุด

 

บทความนี้หวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาผมร่วงได้มากขึ้น และพร้อมดูแลเส้นผมของคุณให้แข็งแรงและสุขภาพดี!